สุขอนามัยส่วนบุคคลสำหรับผู้หญิงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่ก็เป็นเรื่องแปลกที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่กล้าที่จะพูดคุยปรึกษาเมื่อเกิดปัญหา อาจเป็นเพราะความอายหรือความเชื่อที่ถูกปลูกฝังกันมาว่าเป็นเรื่องที่ต้องเก็บไว้เป็นความลับไม่ควรเปิดเผยให้ใครรู้ ซึ่งความลับที่ว่านั้นบางครั้งอาจมีอันตรายแอบซ่อนอยู่ กว่าจะรู้ตัวบางครั้งก็เกือบสายไปเสียแล้ว เพราะความผิดปกติที่เกิดขึ้น มีหลายคนมักจะมองข้ามหรือคิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ รู้หรือไม่ว่าแม้แต่การทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่ไม่เหมาะสมอาจกลายเป็นฉนวนเหตุของโรคได้ นี่อาจเป็นภัยเงียบที่กำลังคุกคามคุณผู้หญิงอยู่ก็ได้
1. อาการคันจากเชื้อรา
ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนสุดขีด ย่อมก่อให้เกิดเหงื่อและความอับชื้นได้ง่าย บริเวณจุดซ่อนเร้นที่บอบบาง หากไม่ดูแลให้ดีอาจเกิดปัญหาตามมาได้เช่นกัน เรื่องง่ายๆที่ผู้หญิงหลายคนรู้แต่ชอบละเลยอย่างเช่น หลังจากเข้าห้องน้ำแล้วไม่ต้องรีบร้อนออกมาทันที ควรซับบริเวณนั้นให้แห้งเสียก่อนและซับอย่างเบามือ ไม่ควรเช็ดย้อนจากก้นมาด้านหน้าเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคจากทวารหนักติดต่อมายังช่องคลอดได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการหมักหมมของเหงื่อจนกลายเป็นสาเหตุที่เร่งให้เชื้อราเพิ่มจำนวน หลีกเลี่ยงการใส่กางเกงที่คับและรัดแน่นเกินไป ชุดชั้นในไม่ควรกระชับแน่น เปลี่ยนมาใส่กางเกงในผ้าฝ้ายแทนผ้าไนล่อน เพราะเป็นอุปสรรคในการระบายอากาศที่จะทำให้อับชื้นและเกิดอาการคันจากเชื้อราได้ แม้แต่การนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานานก็เป็นอีกสาเหตุที่ก่อให้เกิดความอับชื้น รวมถึงการสวมใส่เสื้อผ้าที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อหลังจากการออกกำลังกายโดยที่ไม่รีบทำความสะอาดร่างกาย เป็นปัจจัยหนึ่งของการเกิดเชื้อราบริเวณขาหนีบที่ควรใส่ใจไม่แพ้กัน
2. มีกลิ่น เนื่องจากการติดเชื้อ
ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะมีความกังวลเรื่องกลิ่นบริเวณจุดซ่อนเร้น ตามปกติแล้วทุกคนล้วนมีกลิ่นเฉพาะตัวกันทั้งนั้น หากกลิ่นที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นสัญญาณของการเกิดโรคบางอย่าง ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสรรหาผลิตภัณฑ์ที่มีการแต่งกลิ่นผ้าอนามัยที่มีส่วนผสมของน้ำหอม หรือบางยี่ห้อมีการใส่สมุนไพรเข้าไปแล้วอ้างสรรพคุณในการฆ่าเชื้อโรค สิ่งเหล่านี้อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ รวมถึงกระดาษชำระที่มีสีและกลิ่นก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมจะไปรบกวนสมดุลความเป็นกรด-ด่างของจุดซ่อนเร้นได้ นอกจากนั้นควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ ไม่ใส่ผ้าอนามัยแผ่นเดียวเป็นเวลานาน ต่อให้มีเลือดกะปริดกะปอยก็ควรเปลี่ยน เพื่อไม่ให้เกิดความอับชื้นที่มากเกินไป สำหรับใครที่มีความจำเป็นต้องใช้ผ้าอนามัยแบบสอดก็ควรที่จะเพิ่มความระมัดระวังสักหน่อย อย่าใส่ไว้นานเกินไปเพราะเลือดที่ตกค้างจะเกิดการหมักหมมกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคได้ จึงควรรักษาสุขอนามัยเป็นพิเศษในช่วงที่มีรอบเดือน
3. อักเสบจากเชื้อรา
ตามธรรมชาติแล้วภายในช่องคลอดมีสภาวะที่เป็นกรด เพื่อทำลายสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไป เช่น เชื้อโรค และอสุจิ ซึ่งบริเวณจุดซ่อนเร้นจะมีแบคทีเรียประจำถิ่นอาศัยอยู่ ทำหน้าที่ปกป้องไม่ให้แบคทีเรียก่อโรคมารุกราน เมื่อเกิดสภาวะที่ช่องคลอดเสียสมดุลจึงมีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ง่าย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมควรทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นแค่บริเวณภายนอกก็พอ หลายคนที่กังวลเกี่ยวกับความสะอาดมากเกินไปมักจะเข้าใจผิดโดยทำความสะอาดด้วยการสวนล้างช่องคลอดเป็นประจำ ซึ่งจะทำให้ขาดความสมดุลในช่องคลอด ไม่ควรใช้สบู่ก้อนที่มีกลิ่นหอมหรือครีมอาบน้ำในการทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น เพราะสบู่ทำความสะอาดร่างกายจะมีค่า pH ที่ไม่เหมาะกับจุดซ่อนเร้นที่บอบบาง จริงๆแล้วใช้แค่น้ำเปล่าก็เพียงพอแล้ว แต่หากต้องการการดูแลเป็นพิเศษควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อดูแลจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะที่มีค่า pH อยู่ระหว่าง 3.8-4.5 ไม่มีการเติมกลิ่นที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง อาการคัน และการตกขาวที่ผิดปกติได้
4. อาการคันที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ
หากเกิดอาการคันบริเวณเยื่อบุช่องคลอดและปากช่องคลอด โดยที่ไม่มีการตกขาวผิดปกติ อาจเป็นเพราะผิวบริเวณนั้นเกิดการระคายเคือง หากปล่อยทิ้งไว้อาการอาจแย่ลงกว่าเดิม สาเหตุมาจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม การกำจัดขนโดยการโกนหรือแว็กซ์ซึ่งอาจจะเกิดการแพ้สารเคมีที่ใช้ ผู้หญิงหลายคนมักเข้าใจว่าขนบริเวณจุดซ่อนเร้นเป็นต้นเหตุของกลิ่น อันที่จริงแล้วขนบริเวณนั้นช่วยปกป้องช่องคลอดจากการติดเชื้อ หากใครที่ไม่มั่นใจในเรื่องของการทำความสะอาดสามารถเล็มออกให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยได้ การเลือกกำจัดขนด้วยวิธีโกนอาจสร้างความเสียหายกับผิวบริเวณนั้นได้ และเสี่ยงต่อการติดเชื้อหากอุปกรณ์ที่ใช้ไม่สะอาด รวมถึงการขัดผิวเพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องทำกับผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นที่บอบบางมาก เพราะจะทำให้ผิวแห้งกร้าน เกิดการระคายเคืองและการอักเสบตามมาได้
การดูแลสุขอนามัยของจุดซ่อนเร้นไม่ใช่เรื่องลับที่ต้องคอยหลบๆซ่อนๆอีกต่อไป อย่างแรกเลยคือไม่ควรที่จะละเลยการทำความสะอาดประจำวัน ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรที่จะกังวลในเรื่องความสะอาดมากเกินไป หมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ หากพบอาการปกติหรือไม่แน่ใจควรรีบไปพบสูตินารีแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด
แนะนำผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ สูตรอ่อนโยน เพื่อดูแลจุดซ่อนเร้น
มูสทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น ดีไฟว์ ชีแคร์มูส มาเป็นเนื้อมูสฟองนุ่ม มีความอ่อนโยนมาก ๆ
ไม่ระคายเคืองและไม่ก่อให้เกิดการแพ้
อุดมไปด้วยสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติหลายชนิดมีงานวิจัยมาแล้วว่าเห็นผลจริง เช่น เหงือกปลาหมอ ดอกดาวเรือง หญ้ารีแพร์ ว่านปลาไหลเผือก สาหร่ายสีน้ำตาล ว่านหางจระเข้ จัดมาเต็ม ๆ แบบเข้มข้น
นอกจากจะช่วยจำกัดปัญหาเรื่องกลิ่นและตกขาวแล้ว ยังช่วยปรับสมดุลให้จุดซ่อนเร้น ทำให้ผิวดูกระจ่างใส ผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพและตามธรรมชาติได้อย่างดีเยี่ยมมาก ๆ อีกอย่างคะที่ขาดไม่ได้เลย คือเมื่อใช้อย่างต่อเนื่องจะได้ความฟิตกระชับกลับมาสาวเหมือนเดิมนี่แหละคือความต้องการของสาว ๆ
จุดเด่น มูสทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น ดีไฟว์ ชีแคร์มูส
สูตรเนื้อมูสฟองนุ่ม ใช้สารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ จำกัดกลิ่นไม่พึงประสงค์และตกขาว,ผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ,ให้ความฟิตกระชับ, เพิ่มความสะอาดไม่ทำให้เกิดโรคเชื้อราและแบคทีเรียในช่องคลอด,ลดอการคันระคายเคือง
มูสทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น ดีไฟว์ ชีแคร์มูส เหมาะกับใคร
ที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นแม้หมั่นทำความสะอาด, ผิวบริเวณนั้นค่อนข้างคล้ำ แห้งกร้าน ขาดการดูแล, และมีอาการคันตกขาวเรื้อรัง,เชื้อราในช่องคลอด,ไม่กระชับเหมือนแต่ก่อน,กังวลไร้ความมั่นใจ
เนื้อผลิตภัณฑ์ มูสทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น ดีไฟว์ ชีแคร์มูส
- ลักษณะเป็นเนื้อมูสฟองละเอียดนุ่มกลิ่นหอมละมุนละไม
- ล้างออกได้ง่ายไม่เหนียวเหนอะหนะ
วิธีการใช้ มูสทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น ดีไฟว์ ชีแคร์
- ใช้ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นทุกครั้งเวลาอาบน้ำ
ราคา : 390 บาท ( 35 ml. )
เลขที่จดแจ้ง : 10-1-6200005510