สิ่งที่ต้องรู้ !! เมื่อตั้งครรภ์ตอนอายุ 35+ | Punsuay

สิ่งที่ต้องรู้ !! เมื่อตั้งครรภ์ตอนอายุ 35+

สิ่งที่ต้องรู้ !! เมื่อตั้งครรภ์ตอนอายุ 35+

Zcret-Miracle-White-New

การตั้งครรภ์ในวัย 35+ เป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่ง แต่เพราะในปัจจุบัน ผู้หญิงแต่งงานช้า ส่วนมากก็ 30+ กันทั้งนั้น ซึ่งมาจากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ การเงิน การทำงาน และความพร้อมทางครอบครัว ทำให้ไม่มีเวลาคบหาใคร กว่าจะเจอก็อายุปาเข้าเลข 3 แล้ว เลยทำให้แต่งานช้า แต่การแต่งงาน เชื่อว่าทุกครอบครัวย่อมอยากมีลูกเป็นโซ่ทองคล้องใจ เป็นแก้วตาดวงใจของบ้าน แต่เมื่ออายุ 35+ แล้วก่อนจะมีลูกก็ต้องศึกษาหาข้อมูลกันหน่อย เพราะต้องยอมรับว่า ความเสี่ยงที่คุณผู้หญิงจะตั้งครรภ์ในวัยนี้ก็มีมากเหมือนกัน วันนี้จึงมีข้อแนะนำข้อมูลให้คุณผู้หญิงที่อยากมีลูก เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการมีเจ้าตัวเล็ก

 

1 คุณแม่ต้องยอมรับว่าความเสี่ยงอาจเกิดขึ้นได้

จึงจำเป็นอย่างมากที่คุณแม่ต้องหากความรู้และทำความเข้าใจในการดูแลสุขภาพตัวเอง และลูกในครรภ์ เพื่อให้การตั้งครรภ์เป็นไปด้วยความปลอดภัย ทั้งคุณแม่คุณลูก  เพราะความเสี่ยงที่ลูกจะผิดปกติก็มีมากเช่นกัน การตรวจสุขภาพก่อนการตั้งครรภ์จึงเป็นสิ่งจำเป็น แนะนำให้ตรวจทั้งคุณพ่อคุณแม่เลยนะคะ เพราะมีผลกับลูกทั้งสองคน

 

2 อาจจะต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย

เพราะวัย 35+ มีผลต่อการมีลูกยาก ด้วยวัยที่มากขึ้น ฮอร์โมนก็ลดลง การทำงานของร่างกายก็ไม่ปกติหรือแข็งแรงเหมือนเดิม ไข่ก็ลดลงและไม่แข็งแรงเท่าเดิม การมีลูกยากจึงอาจเกิดขึ้นได้ แต่ทุกวันนี้มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยได้ ซึ่งก็มีหลายวิธี เช่น การฉีดเชื้อ การทำเด็กหลอดแก้ว ไอวีเอฟอิ๊กซี่ พลาสโตซิสต์  หากถึงขึ้นต้องใช้เทคโนโลยี่ คุณพ่อและคุณแม่ต้องทำความเข้าใจแต่ละวิธีว่ามีขั้นตอนกระบวนการอย่างไร และยอมรับวิธีเหล่านี้ได้แค่ไหน หรือมีผลกระทบต่อตัวเองและลูกอย่างไรบ้าง และอีกทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะต้องเตรียม ซึ่งวิธีเหล่านี้ก็ช่วยให้หลายครอบครัวมีบุตรสมใจ แต่ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงหากมีความพร้อมก็เป็นอีกวิธีที่เป็นทางเลือกสำหรับคนอยากมีลูก  และเป็นเรื่องที่คุณแม่ต้องรู้เพราะการดูแลการตั้งครรภ์แบบพิเศษแบบนี้ก็ต้องดูแลตัวเองที่พิเศษไปกว่าการตั้งครรภ์ธรรมดาอย่างแน่นอน

 

ZcretCharming05

3 วิธีการตรวจครรภ์

การตรวจครรภ์เป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญสำหรับคุณแม่ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ แต่สำหรับคุณแม่วัย 35+ แล้วต้องมีการตรวจเพิ่มเติมมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยง หรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยมีวิธีการตรวจดังนี้

  1. การเจาะเลือดเพื่อวินิจฉัยโครโมโซม ซึ่งหากมีโครโมโซมผิดปกติ เด็กอาจะเป็นดาวน์ซินโดรมได้  ดังนั้น การเจาะเลือดเพื่อตรวจดูน้ำตาลในเลือดของคุณแม่ และเพื่อตรวจดูโครโมโซมของลูก เพื่อเป็นการคัดภาวะผิดปกติของโครโมโซม ซึ่งวิธีนี้จะไม่เจาะน้ำคร่ำ แต่เมื่อมีการตรวจแล้ว และมีการพบว่า มีความเสี่ยงและความผิดปกติของโครโมโซม อาจจะต้องทำการเจาน้ำครั่ง คุณแม่ก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจไว้ด้วยนะคะ

 

  1. ตรวจอัลตราซาวด์ วิธีนี้จะเป็นการตรวจการครรภ์ที่ต้องใช้คลื่นเสียงที่มีความถี่สูง ให้แปลงมาเป็นภาพวิดิโอ เพื่อตรวจครรภ์คุณแม่ เพื่อดูอายุครรภ์ และดูพัฒนาการของอวัยวะต่าง และพัฒนาการของเพศ ด้วย ซึ่งการตรวจแบบนี้สำหรับคุณแม่วัย 35+ จะตรวจเน้นพิเศษไปกว่าปกติ เพื่อวิเคราะห์หาสัญญาณที่อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน หรือตรวจหาความผิดปกติของลูกน้อยด้วยค่ะ

 

  1. การเจาะน้ำคร่ำ วิธีนี้เป็นการตรวจหาโครโมโซมที่ผิดปกติ หรือโรคทางพันธุกรรมในครรภ์ โดยใช้วิธีการนำเข็มเล็กๆ ที่มีความยาว สอดผ่านช่องท้องเพื่อไปเจาะถุงน้ำคร่ำ แล้วดูดของเหลวนั้นออกมาไปตรวจหาผลในห้องปฏิบัติการ เมื่อรู้ว่าอาจจะมีการตรวจแบบนี้เกิดขึ้น คุณแม่ต้องเตรียมตัวเตรียมใจไว้เช่นกัน แต่เทคโนโลยีสมัยนี้ จะไม่ทำให้คุณแม่เจ็บตัว แต่เมื่อเรารู้ไว้ก่อนก็ถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมทางใจ

 

  1. การตัดชิ้นเนื้อรกไปตรวจ การตรวจความผิดปกติทางพันธุกรรม โดยการตัดชิ้นเนื้อรกและนำเซลล์ตัวอย่างไปตรวจหาความผิดปกติเช่นเดียวกับการเจาะน้ำคร่ำ แต่ไม่ค่อยนิยม แต่จะใช้วิธีนี้ก็ต่อเมื่อมีอาการชี้ชัดแล้วว่า คุณแม่และเด็กเกิดภาวะความเสี่ยง จึงจำเป็นต้องตัดชิ้นเนื้อรกไปตรวจเพื่อความแม่นยำขึ้น

 

สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ตอนอายุ 35+ ต้องรู้ไว้ เพราะอาจจะต้องไปอยู่ในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง เป็นการเตรียมความพร้อมทางด้านจิตใจ และการหาข้อมูลเบื้องต้น เพื่อป้องกันไม่เกิดสิ่งเหล่านี้จะดีกว่านะคะ

 

ปรึกษาปัญหาผิวหน้าฟรี แอดไลน์มาสอบถามได้เลยคะ

3616603664845723740

Zcret Mask11     Zcret-Miracle-White250-x-25     Pro Zcret Mask03

รับผลิตครีม สร้างแบรนด์53

Submit a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *